แบคโฮถือว่าเป็นเครื่องจักรก่อสร้างหนักที่คล่องตัวที่สุดแล้ว รถแม็คโครนครราชสีมา มีให้เลือกตั้งแต่ไซส์เล็กมาก PC30 PC50 PC60 PC65 PC70 PC75 PC120 เรื่อยไปจนถึง PC200
ส่วนความสามารถก็หลากหลาย รถแม็คโครเล็กนครราชสีมา สารพัดประโยชน์อีก ถึงแม้แบคโฮมันเกิดมาเพื่อเป็น รถขุดดิน แต่หลายๆทีก็โดนจับไปทำงานอื่นด้วย อย่างตัดน้ำรดคอนกรีต หิ้วของย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ลากของ ไปจนถึงทำลายสิ่งของ(บางทีทำลายหนักมือไปหน่อยจนฟันหักกันไปข้าง) แล้วแต่คนใช้งานจะคิดว่าหยิบไปใช้ทำอะไรดี อาจมีใครเอาไปทำเป็นอ่างน้ำไว้แช่ตอนร้อนๆก็ได้ ใครจะไปรู้เนอะ
เช่ารถแมคโครนครราชสีมา
แม็คโครรับจ้างนครราชสีมา
รถแม็คโครเล็กรับจ้างนครราชสีมา
เช่าแม็คโครเล็กนครราชสีมา
ให้เช่ารถแมคโครนครราชสีมา
แมคโครให้เช่านครราชสีมา
ให้เช่าแมคโครนครราชสีมา
แม็คโครเล็กรับจ้างนครราชสีมา
เช่ารถแม็คโครเล็กนครราชสีมา
แมคโครเช่านครราชสีมา
รถแบคโฮเล็กรับจ้างนครราชสีมา
รถแม็คโครเล็กรับจ้างนครราชสีมา
แม็คโครเล็กรับจ้างนครราชสีมา
เช่ารถแม็คโครราคาถูกนครราชสีมา
แม็คโครรับจ้างราคากันเองนครราชสีมา
รถขุดที่เราใช้กันทั่วไปนั้น แต่ละยี่ห้อก็มีชื่อรุ่นต่างกันออกไป วันนี้เราจะมีดูซิว่าชื่อรุ่นของรถขุดแบคโฮโคมัทสุนั้นมาจากคำไหนกัน ยกตัวอย่างรุ่น ของรถขุดโคมัทสุ ก็จะมี PC10-3, PC10-5, PC15, PC25-1, PC30-5, PC30-6, PC30-7, PC40-6, PC40-7, PC45-1, PC60-1, PC60-2, PC60-3, PC60-5, PC60-6, PC60-7, PC100-1, PC100-2, PC100-3, PC100-5, PC100-6, PC120-1, PC120-2, PC120-3, PC120-5, PC120-6, PC120-8, PC200-1, PC200-2, PC200-3, PC200-5, PC200-6, PC200-7, PC200-8, PW60, PW100, PW200
รถขุดที่เป็นตีนตะขาบนั้น จะมีคำนำหน้าชื่อรุ่นว่า “PC” ซึ่งตัว “P” นั้นย่อมาจากคำว่า “Power Shovel” เพราะคนสมัยก่อนเรียกรถขุดไฮโดรลิกด้วยคำนี้กัน (สมัยนี้ฝรั่งไม่ได้เรียกคำนี้กันแล้ว) ส่วนตัวอักษร “C” นั้นย่อมาจากคำว่า “Crawler” ซึ่งหมายถึงตีนตะขาบนั่นเอง
ส่วนรถขุดที่เป็นล้อยางนั้น จะมีคำนำหน้าชื่อรุ่นว่า “PW” ซึ่งตัว “P” นั้นย่อมาจากคำว่า “Power Shovel” หมายถึง รถขุดไฮโดรลิก แบบเดียวกับ PC ส่วนตัวอักษร “W” นั้นย่อมาจากคำว่า “Wheel” ที่แปลว่าล้อนั่นเอง
“P” = Power Shovel (คำเรียกรถขุดในสมัยก่อน)
“C” = Crawler (ตีนตะขาบ)
“W” = Wheel (ล้อยาง)
เราทราบที่มาของตัวอักษรด้านหน้ากันแล้ว ต่อมาก็มาดูกันหน่อยว่าตัวเลขด้านหลังตัวอักษรนั้นหมายถึงอะไร
ตัวเลขด้านหลังนั้น จะบ่งบอกถึงน้ำหนักของตัวรถ ยิ่งตัวเลขเยอะ แปลว่ารถจะมีขบอนดใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น รถขุดที่เล็กที่สุดคือ PC01 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 300 กิโลกรัม ส่วนรถขุดที่ใหญ่ที่สุด คือ PC8000 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 720 ตัน
PC20 = น้ำหนักรถประมาณ 2 ตัน
PC200 = น้ำหนักรถประมาณ 20 ตัน
PC30 = น้ำหนักรถประมาณ 3 ตัน
PC300 = น้ำหนักรถประมาณ 30 ตัน
เวลาเราไปซื้ออุปกรณ์อย่างอื่นมาติดรถเพิ่ม ถ้าคนขายมีข้อมูลแจ้งมาเป็นน้ำหนักรถเราก็จะรู้แล้วว่าขบอนดไหนใช้กับรถเรา รถแม็คโครใหญ่นครราชสีมา เช่น ต้องการซื้อหัวเจาะ หัวแย็ก เราใช้รถ PC120-8 อยู่ ก็บอกคนขายเลยว่าต้องการหัวแย็กใส่กับรถ 12 ตัน
รถแมคโครคือเครื่องจักรที่ใช้ในการตัดแยกดิน หิน และวัตถุอื่น ๆ จากที่ที่สะดวกในการขนขึ้นรถบรรทุกและเคลื่อนย้ายออกไปได้ เครื่องจักรชนิดนี้มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน รูปแบบหนึ่งก็คือรถแมคโครล้อยางซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องขุดที่เชื่อมติดอยู่กับตัวรถจึงทำให้รถชนิดนี้เคลื่อนที่ไปมาระหว่างพื้นที่ทำงานได้ อีกรูปแบบหนึ่งคือ รถแมคโครรัศมีวงห้วยขวางบ ซึ่งจะมีการเคลื่อนที่ที่จำกัดในพื้นที่ขบอนดเล็ก นั่นก็ทำให้เรามั่นใจได้ถึงความปลอดภัยระหว่างการทำงานในพื้นที่ห้วยขวางบ
รถแมคโครขบอนดเล็กก็ใช้ในวัตถุประสงค์เดียวกันกับรถแมคโครที่ขบอนดใหญ่กว่า นั่นก็คือตัดแยกและเคลื่อนย้ายวัตถุออกจากพื้นที่ อย่างที่ชื่อได้บอกไว้แล้วว่าพวกมันมีขบอนดเล็กกว่า
รถแมคโครทั่วไป ดังนั้นพวกมันจึงเหมาะในการทำงานในพื้นที่ขบอนดเล็ก เช่น ในพื้นที่แออัด ดูรถแม็คโครนครราชสีมา หรือสำหรับงานต่าง ๆ เช่น การวางท่อ เราใช้รถแมคโครชนิดนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกมันเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะจะใช้งานรถแมคโครขบอนดใหญ่ รอบหมุนของรถชนิดนี้ก็มีขีดจำกัด เช่นเดียวกับรถแมคโครรัศมีวงห้วยขวางบ และมักจะใช้ในพื้นที่ขบอนดเล็ก
รถแบคโฮ(หน้าตักหลังขุด) คือเครื่องจักรที่มีอุปกรณ์ในการทำงานอยู่ด้านหน้าซึ่งรวมไปถึงเครื่องขุด ด้านหลังของรถแบคโฮคืออุปกรณ์ที่ใช้เคลื่อนย้ายวัตถุที่ถูกแยกออกมาแล้วไปยังอีกที่หนึ่ง ความมั่นคงของเครื่องจักรจะขึ้นอยู่กับแขนค้ำ การใช้เครื่องจักรชนิดนี้ทำให้เราทำงานได้มากกว่าหนึ่งอย่าง และยังสะดวกกว่าในการทำงานให้เสร็จลุล่วงอีกด้วย ข้อดีของการมีเครื่องจักรเครื่องเดียวที่ทำได้มากกว่าหนึ่งอย่างคือช่วยให้ประหยัดเงิน และประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย
รถตักคือเครื่องจักรที่ใช้ในการตักเก็บวัตถุที่ถูกแยกออกมาแล้ว ดังนั้นรถตักจะสามารถย้ายวัตถุไปยังพาหนะที่จะนำวัตถุออกไปจากพื้นที่ได้ รถตักจะขับเคลื่อนด้วยล้อ ดังนั้นพวกมันจะเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ซากปห้วยขวางหักพังเพื่อเก็บทำความสะอาด ขบอนดของรถตักมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ทำงานอะไร รถตักสามารถใช้งานได้หลากหลาย รวมไปถึงการก่อสร้าง การทำไร่ทำสวน และเก็บกวาดหิมะ เราไม่จำเป็นต้องใช้พาหนะอื่นเพื่อเคลื่อนย้ายรถตักเข้าไปในพื้นที่ทำงานเพราะรถตักชนิดนี้มีล้อของมันเอง เครื่องจักรที่ได้กล่าวถึงไปนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินค้าจากโคมัตสุ ดังนั้นบริษัทยังมีอุปกรณ์แบบที่ต้องการอีกมากมาย ไม่ว่างานก่อสร้างจะเป็นแบบไหนก็ตาม
การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว